21 อาคารที่กำหนดแนวทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตั้งแต่ปี 1945 จนถึงปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นเป็นรูปแบบหลักในการออกแบบอาคารหลังจากสงสครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ซึ่งหลังจากนั้นได้ปูทางให้กับสถาปัตยกรรมแบบโพสโมเดิร์นในทศวรรษ 1980
สถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นเป็นรูปแบบในเชิงสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นมาในช่วงต้นปีของศตวรรษที่ 20 รูปแบบนี้กลายเป็นรูปแบบหลักหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทิ้งซากปรักหักพังไว้ทั่วยุโรป
ด้วยลักษณะที่ดูหนาหนักซึ่งเกิดจากการใช้เทคโนโลยีในการก่อสร้างแบบใหม่ ทั้งการใช้กระจก เหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้รูปแบบนีโอคลาสสิคที่เป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษก่อนค่อยๆ หายไป
สถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นจะยังคงเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ตลอดจนศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งรูปแบบโพสโมเดิร์นเข้ามาแทนที่
มีสถาปนิกสมัยใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยทั่วไปแนวคิดสมัยใหม่และรวมทั้งการปกครองในยุค 1960 จากรูปแบบอาคารสีเหลี่ยมผืนผ้าด้วยการเน้นเส้นตรงที่ชัด หลังจากปี 1960 การออกแบบที่เป็นอิสระและเป็นธรรมชาติเริ่มมาแทนที่รูปแบบหลังสงครามซึ่งเป็นไปตามระเบียบมากขึ้น
Modernism (แนวคิดสมัยใหม่) สามารถแบ่งออกเป็น : รูปแบบระดับนานาชาติ รูปแบบศิลปะ และรูปแบบ Constructivist (ส่วนใหญ่จะอยู่ในสหภาพโซเวียตช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2)
อย่างไรก็ตาม บางอย่างที่รวมถึงศิลปะโครงสร้างในประเภทนี้ที่เปลี่ยนไปยัง postmodernism หมวดหมู่นี้มีตั้งแต่ประมาณปี 1970 ไปจนถึงช่วงกลางของปี 1980
นี่คือการเลือกส่วนผสมของอาคารที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของรูปแบบสถาปัตยกรรมของ ‘แนวคิดที่ทันสมัย’ ด้วยตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมมากมายทั่วโลก
1.World Trade Centre 1 - 2 : ใช้แนวคิดสมัยใหม่กับระดับความสูง
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist
ตึก World Trade Center ก่อนถูกโศกอนาถกรรมในปี 2001 เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทั้ง 2 ตึกถูกสร้างขึ้นในปี 1966 และ 1971 แผนดั่งเดิมของ Yamasaki คือมีจำนวนชั้นสูงสุดเพีง 80 ชั้น แต่กลับมีเพิ่มขึ้นถึง 110 ชั้น และใช้พื้นที่อย่างน้อย 930,000 ตารางเมตร ทั้ง 2 ตึกใช้โครงเหล็ก ผนังม่าน และคอนกรีตหนาบนโครงเหล็ก
เมื่อเสร็จสิ้น World Trade Center กลายเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นที่สุดของอเมริกาและเป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมของ Le Corbusier และผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคดั้งเดิม
2.BT Tower : อยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของกรุงลอนดอน
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist
BT Tower ในกรุงลอนดอนสร้างเสร็จเมื่อปี 1964 ตึก modernist นี้สูงถึง 177 เมตร และหากรวมกับเสาอากาศด้วยนั้นจะมีความสูงถึง 191 เมตร เป็นอาคารที่สูงที่สุดในลอนดอนและในสหราชอาณาจักรจนถึงปี 1980
3.พิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim : วิหารแห่งจิตวิญญาณ
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist
พิพิธภัณฑ์ Solomon R. Guggenheim ในแมนฮัทตัน นิวยอร์ก ในปี 1950 ได้ถูกย้ายไปอยู่ในอาคารที่โดดเด่นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอาคารทรงกระบอกผิวขรุขระ ที่เก็บรวบรวมภาพเขียน Post-Impressionist และงานศิลปะร่วมสมัยไว้อย่างมากมาย
4.สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist/International
อาคารสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (United Nations Headquarters) ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 1952 มีความสูงถึง 155 เมตร และใช้เงินประมาณ 65 ล้านเหรียญ (ปัจจุบัน) ในการก่อสร้าง
5.สถาบัน Salk for Biological Studies
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist
สถาบัน Salk for Biological Studies เป็นสถาบันการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไม่แสวงผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1960 ใช้เวลาหลายปีในการออกแบบ โดยให้ความสำคัญกับสัดส่วนที่รับกันและผนังคอนกรีตเปลือย แนวคิดส่วนหนึ่งของอาคารนี้คือสามารถที่จะอัพเกรดขึ้นได้ง่ายเมื่อเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ดีขึ้น เพราะฉะนั้น คานรองจึงถูกกำหนดไว้ที่ริมของห้องแลปแต่ละห้องเพื่อความยืดหยุ่นสูงสุดของการปรับพื้นที่ภายใน
6.ปิรามิด Louvre : แม้จะเคยถูกวิจารณ์ แต่ในปัจจุบันกลับเป็นที่ชื่นชอบ
รูปแบบสถาปัตยกรรม : modernist
ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นจากโครงโลหะและกระจกขนาดใหญ ตั้งอยู่ใน Cour Napoleon of Louvre Palace ปิรามิด Louvre เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โครงสร้างทั้งหมดสูง 21.6 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส 34 เมตร และใช้พื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร
7.โรงละคร Royal National : ผลงานชิ้นเอกของ Brutalist ในกรุงลอนดอน
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Brutalist
เป็นหนึ่งใน 3 โรงละครที่โดดเด่นมากที่สุดในสหราชอาณาจักร และเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดของกรุงลอนดอน
8.Sydney Opera House
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Expressionist
Sydney Opera House เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1973 มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 912 ดอลล่าร์ออสเตรเลียในปัจจุบัน
9.Atomium
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Ludic Modernism
Atomium ตั้งอยู่ในเมืองบรัสเซลส์ เป็นอาคารแลนด์มาร์กของเบลเยี่ยมและเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีเอกลักษณ์มากของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่หลังสงครามโลก แต่เดิมถูกสร้างขึ้นเพื่องานแสดงสินค้า Brussels World ในปี 1958 โดยสร้างจากทรงกลมเหล็กสแตนเลส 9 ชิ้น มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 เมตร เชื่อมต่อกันด้วยท่อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตรเป็นรูปร่างคล้ายหน่วยเซลล์ โครงสร้างทั้งหมดสูง 102 เมตร ห้องสูงสุดของโครงสร้างถูกทำเป็นห้องอาหารที่เห็นวิวเมือง นอกจากนี้ยังมีห้องโถงจัดแสดงและพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย
10.John Hancock Centre
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Structural Expressionism
John Hancock Centre (ในปัจจุบันรู้จักกันในฐานะ 875 North Michigan Avenue) ในชิคาโก อิลลินอยส์ เป็นตัวอย่างที่ดีของสไตล์ Structural Expressionism มีสัญญาซื้อขายอยู่ที่ 100,000,000 ดอลล่าร์ เริ่มก่อสร้างในปี 1965 เสร็จสิ้นในปี 1969 โครงสร้างทั้งหมดสูงถึง 344 เมตร แต่หากรวมโครงสร้างชั้นดาดฟ้าด้วยจะสูงถึง 457 เมตร เคยเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
11.Gateway Arch : เป็นซุ้มประตูที่สูงที่สุดในโลก
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Structural Expressionism
Gateway Arch เป็นที่ที่มีชื่อเสียงใน St. Louis, Missouri เป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสูงถึง 192 เมตร ทำจาก ไร้สนิมที่ใช้รูปแบบของซุ้มประตู เป็นซุ้มประตูที่สูงที่สุดในโลกและเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างโดยมนุษย์ที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา สร้างเสร็จในช่วงกลางปี 1960 โดยใช้งบประมาณสูงถึง 13 ล้านดอลล่าร์ (78 ล้านดอลล่าร์ในปัจจุบัน)
12.Berliner Fernsehturm : เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเยอรมันนี
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist
Berliner Fernsehturm หรือ Berlin Television Tower คือตึกโทรคมนาคมที่สร้างขึ้นระหว่างปี 1965 และ 1969 ในใจกลางกรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี ได้รับการว่าจ้างและสร้างขึ้นโดย German Democratic Republic (GRD) ที่ส่วนใหญ่เป็นการเผยแพร่คอมมิวนิสต์ เป็นตึกที่มีความสูงถึง 368 เมตร และมีโครงสร้างสูงที่สุดในเยอรมันนี ในปัจจุบันยังคงเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และเป็นหอชมเมืองอีกด้วย
13.รีสอร์ท Contemporary ของดิสนีย์ : เป็นอาคาร A-Frame ขนาดใหญ่
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Contemporary
รีสอร์ท Contemporary ของดิสนีย์ แต่เดิมถูกเรียกว่า Tempo Bay Hotel เป็นรีสอร์ทที่ได้รับ 4 เพชรใน Disney World, Florida เป็นอาคารที่มีลักษณะโดดเด่นคือมีโครงสร้างแบบ A-Frame ด้วยผนังภายนอกที่ลาดเอียงออกจากเอเทรียมภายใน
14.Cité radieuse : เป็นผลงานชิ้นเอกของ Le Corbusier
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Unité d'habitation
Cité Radieuse (Radiant City) เป็นรูปแบบ modernist ที่มีลักษณะพิเศษแบบที่พักอาศัย สร้างขึ้นระหว่างปี 1947 และ 1952 ในเมือง Marseille, France เป็นผลงานที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของเลอกอร์บูซีเยร์และมีอิทธิพลอย่างมากในเวลานั้น
15.Farnsworth House : เป็นผลงานชิ้นเอกของ Internationalist
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Internationalist
Farnsworth House ได้ถูกออกแบบให้เป็นห้องพักสุดสัปดาห์สำหรับ Dr. Edith Farnsworth เพื่อให้เป็นสถานที่ที่เงียบสงบและทำงานอดิเรก ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1945 และ 1951 ที่พักนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบนานาชาติที่สุดยอด และกลายเป็นแลนด์มาร์กที่เป็นประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2006
16.อาคาร Seagram : เปลี่ยนการออกแบบสถาปัตยกรรมในอเมริกา
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Internationalist
อาคาร Seagram เป็นตึกสูงระฟ้า ถูกสร้างขึ้นในนิวยอร์กเมื่อปี 1958 เป็นตัวอย่างที่คลาสสิคของสถาปัตยกรรมรูปแบบ International ของ Modernist อาคารนี้สูงถึง 157 เมตร มีมากกว่า 38 ชั้น เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท Joseph E. Seagram and Sons เป็นหนึ่งในอาคารที่มีอิทธิพลที่สุดในสถาปัตยกรรมอเมริกา ตัวอาคารประกอบด้วยโครงเหล็กกับแกนคอนกรีตเสริมเหล็ก แกนนี้ขยายไปถึงชั้น 17 โดยมีแกนแทยงค้ำต่อไปถึงชั้นที่ 29
17.อาคาร Manufacturers Trust Company : แบบจำลองสำหรับ Modernism
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Internationalist
อาคาร Manufacturers Trust Company ในนิวยอร์กได้รับการยอมรับอย่างกว้างขว้างว่าเป็น ‘แบบจำลองสมัยใหม่มาก’ โดยเป็นอาคารกระจกและอะลูมิเนียมที่สร้างเสร็จเมื่อปี 1954 และกลายเป็นอาคารธนาคารแห่งแรกที่สหรัฐอเมริกาสร้างขึ้นในรูปแบบของสถาปัตยกรรมนานาชาติ ในปัจจุบันเป็นอาคารเก่าแก่และได้รับกำหนดให้เป็นแลนด์มาร์กของเมืองนิวยอร์ก
18.Jatiya Sangsad Bhaban : เป็นหนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Monumental
ความซับซ้อนทั้งหมดอยู่ที่อาคารสภานิติบัญญัติขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 800,000 ตารางเมตร เป็นหนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 20 เริ่มสร้างเมื่อปี 1961 เสร็จสิ้นปี 1982 อาคารนี้ถูกสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กและการก่ออิฐ อาคารนี้ปรากฎขึ้นในภาพยนต์เรื่อง My Architect เมื่อปี 2003
19.Sainte Marie de La Tourette : อาคารสุดท้ายของ Le Corbusier
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Internationalist
Sainte Marie de La Tourette อาคารเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1956 เสร็จเมื่อปี 1960 อาคารนี้จัดเป็นมรดกโลกของ NESO ในเดือนกรกฎาคมปี 2016
20.Notre Dame du Haut : เป็นโบสถ์ Expressionist ของ Le Corbusier
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist/Expressionist
Notre Dame du Haut (Our Lady of the Heights) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์ modernist ใน Roncahmp, France ถูกสร้างขึ้นในปี 1955 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเลอกอร์บูซีเยร์และเป็นอาคารทางศาสนาที่สำคัญในศตวรรษที่ 20 มีการทำงานและดึงดูดผู้เข้าชมหลายแสนคนต่อปี ถูกสร้างขึ้นจากคอนกรีต โดยมีหลังคาแบบหันขึ้นที่รองรับเสาปูนที่ฝังอยู่ในผนัง โครงสร้างสร้างจากส่วนที่เหลือของโบสถ์เดิม ได้รับการยอมรับว่าเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 2016
21.Millbank Tower : อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
รูปแบบสถาปัตยกรรม : Modernist
Millbank Tower ในลอนดอนเป็นตึกสูงระฟ้า 118 เมตรสร้างขึ้นในปี 1963 ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งขององค์กรทางการเมืองที่สำคัญหลายแห่ง เป็นแลนด์มาร์กเส้นขอบฟ้าของลอนดอน เป็นอาคารที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรระหว่างปี 1963 และการก่อสร้างของ BT Tower
ถือว่าเป็น "อัญมณีของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่" ตึกนี้ได้ไปปรากฎในภาพยนต์และซีรี่ย์บางเรื่องรวมถึง Doctor Who, The Vault of Horrors และอื่นๆ แม้จะได้รับการคุ้มครอง แต่ก็มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนอาคารให้กลายเป็นโรงแรมและอพาร์ทเม้นต์หรู
ซึ่งนี่คือ 21 อาคารที่ช่วยสร้างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ยอดเยี่ยมมากมาย
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่