4 ท่าอากาศยานนานาชาติ ที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวในอนาคตดีขึ้น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสนามบินเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างประเทศสำหรับสายการบินที่ใหญ่ที่สุดและเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในการท่องเที่ยว สนามบินเหล่านี้เป็นที่นิยมได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีประสิทธิภาพ มีความสะดวกสบาย และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและเป็นที่พอใจสำหรับนักเดินทางโดยรวม

ทำไมสนามบินบางแห่งผู้ใช้บริการถึงลดลง และอะไรที่ทำให้การออกแบบสนามบินและประสบการณ์การเดินทางของบางแห่งดีขึ้นกว่าเดิม ทีมออกแบบที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ 4 สนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดอธิบายถึงวิธีการใช้เทคโนโลยี และการรายงานผลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการออกแบบและเพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ทันสมัยสำหรับนักเดินทางที่มากขึ้น

1. สนามบินนานาชาติ Los Angeles (LAX)

ในเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียและฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา สนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิสเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักกันดีในความแออัดของสภาพแวดล้อมแถบนั้น ก่อนที่จะมีการปรับปรุงใหม่

ในปี 2553 สนามบินนานาชาติ Tom Bradley ได้เริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นายกเทศมนตรีเมือง Los Angeles ในขณะนั้นคือ Antonio Villaraigosa ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสนามบิน Los Angeles ให้สามารถแข่งขันกับเมืองระดับโลกอื่นๆ ได้ ซึ่งโดยรวมของโครงการการปรับปรุงสนามบิน ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก และอื่นๆ นั้น มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน สถาปนิก Gensler ได้นำ VR และ BIM (ร่วมกับ Autodesk Revit) ในการอธิบายข้อมูลให้กับลูกค้า (ผู้ว่าจ้างโครงการ) เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ แบบโครงการในรูปแบบ 3D ด้วยเหตุผลของ Gensler และ Principal Keith Thompson ที่ว่า “ผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนทางสถาปัตยกรรม ยากที่จะจินตนาการภาพจากภาพวาดกระดาษ 2D” ดังนั้นการใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ

2. สนามบิน Istanbul

โครงการสนามบินอิสตันบูลเป็นโครงการสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เข้ารอบสุดท้ายในงาน AEC Excellence Awards ของ Autodesk 2016) โครงการนี้ได้รับการออกแบบโดย iGA ซึ่งมีสัญญาก่อสร้างและดำเนินการของสนามบินเป็นระยะเวลา 25 ปี โดยจะแบ่งโครงการออกเป็น 4 เฟส ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในต้นปี พ.ศ. 2561 มีแพลนให้เสร็จสิ้นโครงการภายในปี พ.ศ. 2571 โดยสนามบินจะมีทั้งหมด 6 รันเวย์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม และศูนย์การประชุม มีห้องพักให้สำหรับผู้รอขึ้นเครื่องจำนวน 3,500 เที่ยวบินต่อวัน และรองรับผู้ใช้บริการได้ถึง 200 ล้านคนต่อปี

การออกแบบและการก่อสร้างสนามบินมีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานที่หลากหลาย ซึ่ง BIM ในระบบ cloud (โดยเฉพาะ BIM 360) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน โดยหลังจากโครงการเสร็จสิ้น สนามบินจะสามารถใช้งานได้มากกว่า 25 ปี นี่คือเหตุผลที่มีการนำ 6D BIM มาใช้ในขั้นตอนการออกแบบและก่อสร้าง และการบริหารจัดการสถานที่ต่างๆ ภายในสนามบิน

3. สนามบินนานาชาติฮ่องกง

สนามบินฮ่องกงมีจุดมุ่งหมายในการสร้างคือเป็นการมิตรต่อสภาพแวดล้อม ออกแบบโดยวิศวกรรม บริษัท AECOM มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การใช้แสงธรรมชาติ การลดใช้พลังงาน และใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ เป็นต้น เป็นการออกแบบที่เน้นในการลดการใช้พลังงานโดยการยกระดับโครงสร้างของอาคาร เพื่อให้มีการระบายความร้อนและรักษาความเย็นภายในอาคารได้

สนามบินแห่งใหม่นี้มีระบบ hinges บน 3 รันเวย์ (3RS) และรวมถึง Midfield Concourse, SKYCITY และ terminal expansions โดยบริษัท AECOM ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท HKIA ให้เป็นที่ปรึกษาด้าน BIM เพื่อสร้างกระบวนการออกแบบและการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสำหรับ 3RS ตลอดจนการดูแลกระบวนการทำงานของ BIM

4. สนามบิน LaGuardia

สำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามบิน LaGuardia ใน New York นี้ BIM จะช่วยให้นักออกแบบ เจ้าของโครงการ และผู้จัดการ สามารถเห็นรูปแบบอาคารได้หลายมิติและยังช่วยลดความเสี่ยงจากการทำงานอีกด้วย

ในเดือนกรกฎาคมปี 2015 New York Governor Andrew Cuomo ได้เข้าร่วมกับรองประธานาธิบดี Joe Biden (ครั้งหนึ่งเคยเรียกว่า LaGuardia's Terminal B ซึ่งเป็น "ประเทศโลกที่สาม") เพื่อประกาศโครงการ 4 พันล้านเหรียญในการสร้างอาคารสนามบินใหม่ เพื่อให้สนามบินอยู่ในที่ตั้งที่ดีที่สุด มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการปรับปรุงการขนส่งสาธารณะที่จะมายังสนามบิน ลดการล่าช้าของเที่ยวบิน และลดปัญหาการจราจรรอบสนามบิน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักเดินทาง และได้มีการออกแบบอาคารผู้โดยสารใหม่ให้มีเพดานที่สูงขึ้น มีแสงสว่างและอากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อเทียบกับอาคารเก่าที่มืดและมีเพดานที่ต่ำ

Cr : redshift.autodesk.com/airport-designs

ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ