4 เคล็ดลับจากผู้ผลิตเหล็ก ในการออกแบบเพื่อก่อสร้างงานเหล็กได้แบบมีปัญหาน้อยที่สุด
ด้วยหลังคาเหล็กรูปทรง barrel ใกล้กับมหาสมุทรแปซิฟิก Imperial Beach Library คือแลนด์มาร์คสมัยใหม่สำหรับชุมชนเล็กๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากชายแดนแม็กซิโก - แคลิฟอร์เนีย
โครงสร้างขนาด 14,830 ตารางฟุต ถูกเปิดตัวขึ้นในปี 2017 และได้รับรางวัลในด้านสถาปัตยกรรมหลายอย่าง รวมถึงรางวัล ENR California Small Project Award of Merit และ the San Diego Architectural Foundation Orchids Awards ช่างก่อสร้างรู้ดีว่าโครงการที่น่ายกย่องนี้ เป็นความพยายามของทีมทั้งหมดที่ช่วยให้เข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของการออกแบบ
ในโครงการนี้ 2 ฮีโร่หลังฉากคือ Lance Richardson บริษัท Richardson Steel ดูแลโครงสร้างหลังคาม้วน และ Bart Rohal บริษัท Steel Detailing Online ซึ่งเป็นช่างทำรายละเอียดที่ทำงานร่วมกับ Richardson
การออกแบบหลังคาโลหะที่ซับซ้อนของ The Imperial Beach Library ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีปัญหาใดๆ เพราะมีการสื่อสารที่ชัดเจนตลอดโครงการ
ซอฟต์แวร์ที่ถูกนำมาใช้ในงานรวมทั้ง Revit, Navisworks, BIM 360, และ Advance Steel แต่เทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) จะช่วยให้งานต่างๆ เช่น Imperial Beach Library มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การดัดแปลงที่ขัดแย้งกันได้สร้างช่องว่างข้อมูลที่เกิดขึ้นตามรายได้โครงการ ตั้งแต่ขั้นตอนสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมไปยังการก่อสร้าง“ความซับซ้อนที่สามารถนำไปสู่ปัญหามากมาย” Richardson กล่าว “[รูปร่าง] เปลี่ยนจากรัศมีหนึ่งไปรัศมีที่สอง และต่อด้วยรัศมีที่สาม เป็นเรื่องยากที่จะสร้างโดยไม่มีแบบจำลอง และเป็นเรื่องดีที่งานดำเนินการไปได้ด้วยดีและมีการสื่อสารที่ดี เพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ได้ เนื่องจากการสื่อสารและการแชร์การใช้งานของเทคโนโลยี จึงหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้ดี และทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”
ส่วนใหญ่ การแบ่งงานให้เป็นส่วนๆ จะใช้เวลาในการแก้ไขเพิ่มเติ่มเป็นชั่วโมงๆ ที่แย่ที่สุด อาจจะทำให้เปลืองเวลาและวัสดุมากขึ้น เพื่หลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็กทั้ง 2 ได้แชร์ 4 เทคนิค สำหรับวิธีที่พวกเขาใช้ปรับปรุงกระบวนการที่พวกเขาเห็นได้ทุกวันในอุตสาหกรรมสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง
- ยอมรับเทคโนโลยีหลายๆ อย่าง
วิธีการแก้ปัญหามากมายในการผลิตเหล็กเป็นการนำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์มาใช้ทั่วโลก Richardson และ Rohal ได้เห็นด้วยว่าการปรับใช้ BIM กำลังเร่งให้เกิดขึ้นและหวังว่าแนวโน้มนี้จะนำไปสู่อนาคตที่ทุกคนจะอยู่ในแนวเดียวกัน
Richardson และ Rohal ได้นำไปใช้กับโครงการเหล็กจำนวนมากที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในรายละเอียด และพวกเขานึกถึงการทำงานร่วมกับอื่นๆ ในซอฟต์แวร์ที่สร้างรายละเอียดเกี่ยวกับโลหะได้อย่างง่ายๆ
“Richardson มี detailer ผู้อื่นๆ ซึ่งให้รายละเอียดทุกอย่างด้วยรูปแบบ 2D ที่เหมาะสม” Rohal กล่าว “โครงถักอะลูมิเนียมเหล่านี้มีราคาสูงมากและขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมได้มาก จากภาพ Drawing ไปยัง 3D ซึ่งใช้เวลาเพียงวันหรือ 2 วันในการสร้างท่อตัดแบบพิเศษ ได้ถูกส่งไปไฟล์ IGS ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้หลายร้อยชั่วโมง”
เมื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเปิดรับเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สากล จะช่วยลดข้อผิดพลาดลง และยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
“ซับพลายเออร์เกี่ยวกับท่อและเครื่องจักรกลของเราสามารถนำเข้าไฟล์ 3D IGS จาก Advance Steel เข้าไปในเลเซอร์ five-axis และ CNC mills และการ cut the braces เพื่อให้พอดีกับแรงงานที่มีน้อยมาก” Richardson เสริม “ในแบบคู่มือและการตัดชิ้นส่วนจะเปลืองเวลาหลายร้อยชั่วโมง”
2. เริ่มต้นการทำงานร่วมกันให้เร็ว
Richardson และ Rohal เชื่อว่าหากผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็กถูกนำเข้าสู่กระบวนการสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมก่อน ผลที่ได้จะช่วยประหยัดและให้ความรู้แก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“สถาปนิกและวิศวกรจำนวนหนึ่ง ได้เรียกร้อง input ของเราในระยะเริ่มต้นของการออกแบบโครงการ บ่อยครั้งเมื่อไม่ทำสัญญา” Richardson กล่าว “ไม่สามารถกล่าวเกินจริงได้ว่าโครงการนี้มีประโยชน์อย่างไรเมื่อการก่อสร้างเริ่มขึ้น เราจะกระตุ้นวิศวกรและสถาปนิกทุกคน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับสมาชิกของการค้าการก่อสร้างและการใช้ทรัพยากรณ์ร่วมกัน”
Rohal ใช้ไอเดียนี้ต่อไป การคิดค้นตำแหน่งใหม่ที่เขาอยากจะเห็นในระดับสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม “เราเชื่อว่าจะมีความรอบคอบมากขึ้นสำหรับเจ้าของโครงการในอุตสาหกรรมสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมในการทำสัญญารับช่วง สิ่งที่ฉันสร้างจะมีคุณสมบัติ QCSD หรือ detailer ด้านเหล็กจะควบคุมคุณภาพ เพื่อรีวิวโครงการเหล็กในระหว่างระยะ DD (การพัฒนาการออกแบบ) และ CD (เอกสารการก่อสร้าง) นี่ไม่จำเป็นต้องมี QCSD ในการทำสัญญา detailer ด้านเหล็ก แต่ส่วนใหญจะปรึกษาที่ปรึกษาด้านเหล็กก่อนไปเสนอราคา สิ่งนี้สามารถช่วยเจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายโครงการและเวลาการส่งมอบโดยรวมทั้งหมด นอกจากนี้ ทีมสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมจะได้รับเทคนิคเกี่ยวกับเหล็กที่มีประโยชน์ที่สามารถนำไปประยุกต์กับโครงการในอนาคตได้”
- โมเดลให้อยู่บนมาตรฐาน AISC
American Institute of Steel Construction (AISC) ระบุว่ารายละเอียดภาพร่างการก่อสร้างเหล็กภายในความคลาดเคลื่อนของมุม 1/16 นิ้ว และ 4 องศาทศนิยม ความท้าทายสำหรับ detailer เช่น Rohal คือ ไม่ได้มีแผนการออกแบบหรือโมเดลตามข้อกำหนดทั้งหมด โดยต้องการให้เขาสร้างคำขอข้อมูล (RFI) สำหรับโครงร่างพื้นฐานของเหล็ก
“การออกแบบ 2D และโมเดล BIM 3D จำเป็นต้องตั้งค่าพื้นฐาน AISC ที่จุดเริ่มต้นของโครงการ” เขากล่าว “หากโมเดลไม่ได้ใช้ข้อกำหนดของ AISC detailer ด้านเหล็กส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการ scratch มากกว่าการ recheck หรือ verify โมเดล Revit ก่อนทั้งหมด”
รายละเอียดในรูปแบบ 3D สามารถประหยัดได้หลายร้อยชั่วโมง เมื่อเทียบกับ manual layout และ cutting
ค่าใช้จ่ายสำหรับการไม่ติดตาม AISC จะเห็นได้ชัดทันที “พวกเราในฐานะ detailer ด้านเหล็กจะเสนอราคารายละเอียดเหมือนกับว่าพวกเราเคยเป็นรายละเอียดเหล็ก หากสังเกตุการออกแบบ 'เป็น VIF [ตรวจสอบในฟิลด์] ก่อนการสร้าง' พวกเราจะรวมรายละเอียดเหล็กที่ราคาสูงสุด ตามที่เคยทำสำหรับกระบวนการ review-submittal และอีกครั้งสำหรับการก่อสร้าง สิ่งนี้สามารถทำให้การส่งมอบเหล็กล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเหล็กชุบสังกะสี”
- ช่วยกันทำการรีวิวหลังโครงการเสร็จ
ด้วยอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่เจริญก้าวหน้า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะย้ายไปยังโครงการต่อไปโดยทันทีหลังจากก่อนหน้านี้เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม Rohal ได้เสนอแนะว่า การรีวิว RFIs หลังโครงการอาจเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีค่า
“บริษัทสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมควรรวมรีวิวโครงการหลักเกี่ยวกับโครงการโดยเฉพาะกับความเข้าใจด้านเหล็ก RFIs” “สิ่งนี่จะรวมไอเดียเกี่ยวกับโครงการในอนาคตและการปรับมาตรฐานให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจและกระบวนการโครงสร้างมากที่สุด”
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่