บริษัทออกแบบบ้านในญี่ปุ่นใช้ Virtual Reality แทนการสร้างโชว์รูม
ในธุรกิจการสร้างที่อยู่อาศัยตามความต้องการในประเทศญี่ปุ่น การออกแบบแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร สถาปนิกจะใส่ความคิดลงไปในแผนงาน และสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และโดยทั่วไป จะสามารถนำเสนอแผนนี้ให้เจ้าของบ้านผ่านพิมพ์เขียว แบบจำลอง และการเรนเดอร์ CG แต่การเพิ่มโชว์รูม VR-based ที่เสมือนจริง ไปยังชุดเครื่องมือจะช่วยให้ทำงานกับลูกค้าได้มากขึ้นและช่วยให้การแสดงภาพของผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วดีขึ้น
Freedom Architects Design บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมในญี่ปุ่นที่มีสตูดิโอถึง 16 แห่งและก่อตั้งมามากกว่า 20 ปี สร้างที่อยู่อาศัยตามความต้องการได้ราวๆ 400 หลังต่อปี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 บริษัทได้เริ่มใช้เครื่อง VR แบบ walkthroughs เพื่อให้ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
ไม่นานมานี้ virtual reality ในสถาปัตยกรรมมีให้ใช้งานในญี่ปุ่นผ่านผู้รับเหมาทั่วไปและผู้รับสร้างบ้านหลักๆ เท่านั้น ในปัจจุบัน Freedom Architects ได้มีการเริ่มใช้ระบบ VR Architects ของตนเอง เป็นความคิดริเริ่มใหม่สำหรับตลาดการสร้างที่อยู่อาศัยตามความต้องการ ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าสวมใส่จอแสดงที่ศีรษะ เพื่อการสำรวจพื้นที่ภายในบ้านอย่างเต็มรูปแบบ การใช้ VR แสดงภาพของบ้านในระหว่างกระบวนการออกแบบ สามารถกำหนดและเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการขุดเจาะพื้นดิน
ในเดือนสิงหาคม 2559 Freedom Architects กลายเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับ certification สำหรับแผนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยผ่านการเสนอของ BIM data ที่สร้างขึ้นโดยการใช้ Autodesk Revit เป็น certification ในด้านสถาปัตยกรรม BIM-based แรกที่ได้รับความร่วมมือจากบริษัท Otsuka บริษัท Autodesk และบริษัท Jutaku Seinou Hyouka Center (Housing Performance Evaluation Center) ในปัจจุบัน Freedom Architects มีความคิดริเริ่มใหม่ในการนำเข้า VR เพื่อเอาไปใช้กับ BIM ในระดับต่อไป
“เมื่อเราสำรวจลูกค้าของเรา พวกเขาร้องขอความสามารถในการสำรวจบ้านของพวกเขากันอย่างล้นหลามโดยการใช้ VR ในขณะที่ทางเรากำลังออกแบบ” Makoto Nagasawa ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ Freedom Architects กล่าว
ลูกค้าคนใดที่ผ่านการทดสอบระบบ VR ของ Freedom Architect แล้วมักเกิดการชื่นชอบ : ด้วยระบบการมองเห็นแผนการออกแบบพื้นที่ที่ได้ออกแบบแล้ว ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจมากขึ้น ลูกค้ารายหนึ่งสามารถเดินจากห้องครัวไปยังห้องซักผ้า และดูขั้นตอนต่างๆ ลูกค้าอีกรายหนึ่งประหลาดใจว่าการเก็บแผ่นพิมพ์โปรดขนาดใหญ่ไว้ที่ไหนและสามารถสำรวจห้องครัวเพื่อหาชั้นวางที่เหมาะสมได้ คู่กับความต่างกัน 8 นิ้วในความสูง “ที่ยืนอยู่” ในห้องครัวเสมือนจริงของพวกเขา ในระหว่างการประชุมเกี่ยวกับ VR กับลูกค้า หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่จะแสดงมุมมองของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้พนักงานของ Freedom Architects สามารถสังเกตุเห็นและเข้าใจวิธีการที่ลูกค้ามองเห็นการออกแบบของพวกเขาได้ เนื่องจากการอ้างอิงจากการมองเห็นนี้ พวกเขาสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากคำร้องขอพิเศษของพวกเขา
ในกระบวนการแสดงภาพของ Freedom Architects ข้อมูลการออกแบบถูกสร้างโดยการใช้ Autodesk Revit และแปลงข้อมูลไปยัง Revit LIVE ผ่านบริการ cloud นอกจากนี้ เครื่องเกมและซอฟแวร์ Stingray การเรนเดอร์แบบ real-time จะถูกใช้ในการแสดงภาพข้อมูลที่สมจริงมากขึ้น Freedom Architects ใช้จอแสดงผลของ HTC Vive เพื่อจัดสภาพแวดล้อม VR ซึ่งลูกค้าสามารถเดินผ่านได้ในขณะนั้น
แม้กระทั่ง อิทธิพลของสภาพแวดล้อม เช่น การจำลองแสงแดดที่แม่นยำใน VR ในตัวอย่างหนึ่ง ลูกค้าร้องขอการออกแบบในที่แสงอาทิตย์ตอนเช้าเต็มห้องนอน การเพิ่มหน้าต่างที่กว้างและยาวเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการนี้ แต่การจำลองแสดงให้เห็นว่า แสงแดดจะสามารถไปส่องเข้าไปในห้องได้ตั้งแต่ 10.00 น. การเปลี่ยนหน้าต่างที่กว้างให้สูงขึ้น เป็นการปรับปรุงแก้ไขการออกแบบเพื่อให้แสงแดดส่องเข้าไปในห้องได้ในเวลาที่เช้ากว่านี้
“จนกระทั่งปัจจุบันนี้ สถาปนิกจะเห็นถึงถึงลักษณะบางอย่างของการออกแบบของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้เห็นอาคารที่เสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น” Nagasawa กล่าว “บางสิ่งบางอย่างที่คุณสังเกตุเห็นตลอดด้วยตาตัวเอง บางสิ่งบางอย่างที่คุณต้องการจะเปลี่ยนหลังจากเห็นข้อเท็จจริง ประสบการณ์จากโครงการจำนวนมากช่วยให้สถาปนิกพัฒนาไหวพริบของพวกเขาจากความใส่ใจนี้ และยังคงมีช่องว่างประมาณหนึ่งปีจากเวลาการวางแผนจนกระทั่งอาคารเสร็จสมบูรณ์” อย่างไรก็ตาม VR จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์และสำรวจการออกแบบของคุณภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง
“มันกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะตรวจสอบช่องว่างในบุคคล และจึงกลับไปวาดภาพเพื่อทำการแก้ไข” Nagasawa กล่าวต่อ “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางของสถาปนิกของเรา ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เมื่อพวกเขาอธิบายการออกแบบให้กับลูกค้า ความเชื่อมั่นของพวกเขาในการออกแบบมากจากความจริงที่ว่าพวกเขาสามารถแสดงตัวอย่างในรายละเอียดที่ว่างขนาดใหญ่ ที่พวกเขากำลังสร้าง โดย VR ไม่ใช่แค่สำหรับลูกค้า ฉันคิดว่า VR จะช่วยปฏิวัติแนวทางในการทำงานของสถาปนิกด้วยเช่นกัน”
เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้สามารถนำเข้าไปใน BIM data ได้เช่นเดียวกัน จะช่วยให้สามารถดูวัตถุเหล่านี้ได้ สร้างสัดส่วนและวางตำแหน่งในทางที่ถูกต้องแม่นยำในขั้นของรายละเอียด ที่ประกอบไปด้วย รูปร่าง สี และพื้นผิว
“ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หลายรายทั่วโลก โดยแบบจำลอง 3D ซึ่งสามารถ download และ import เข้าไปใน BIM data ได้” Nagasawa กล่าว “ถ้าสามารถตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ได้ในระยะแรก ก็สามารถสั่งได้ก่อนการออกแบบบ้านจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อเราสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำนอกประเทศญี่ปุ่น บางครั้งเราต้องมีการขนส่งทางอากาศในบางเที่ยว ซึ่งอาจจะมีราคาสูงหรือเลือกหันไปหาของที่มีสต็อกอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็อาจจะไม่มีสีหรือรูปทรงที่ต้องการ ความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ได้ในระยะแรกจึงมีประโยชน์มากกว่าที่คาดการณ์ไว้”
กล่าวเกี่ยวกับการสร้างบ้านไปแล้ว “การสร้างที่พักอาศัย 3 หลังเพื่อให้ได้เพียงหนึ่งเดียวที่ต้องการ” แต่ถ้าคุณมีโอกาสได้ใช้ VR ในการทดสอบทุกๆ ซอกมุมและร่องของบ้านก่อนการสร้าง? Nagasawa กล่าว ซึ่ง “บ้านที่ได้ออกแบบใน VR คือการทวนซ้ำครั้งแรก” เมื่อทั้งสถาปนิกและลูกค้าได้ใช้ VR พวกเขาสามารถแชร์รูปคอนกรีตของบ้านที่กำลังสร้าง ในขณะที่กำลังแลกเปลี่ยนไอเดีย ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปตามจริงและเป็นรูปธรรมในกระบวนการการก่อสร้าง ส่งผลให้เกิดความพอใจเป็นอย่างมากในบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ในหมู่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
การใช้เทคโนโลยีนี้ ลูกค้าสามารถทำงานได้ใกล้ชิดกับสถาปนิกในการเข้าถึงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อสร้างบ้าน ครั้งหนึ่งในการจำลองการเปิดไฟและการฟังเสียงสะท้อนกลายเป็นที่แพร่หลายมาก ในอุตสาหกรรมการสร้างบ้านจะพบ applications สำหรับ VR ในการทำงานมากขึ้น
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่