9 ข้อดีที่ได้รับจาก BIM การสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคารเพื่อความสำเร็จ
การเปลี่ยนภาพวาด 2D ไปเป็นแบบจำลอง 3D ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและได้รับความสนใจจากสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ด้วยผลตอบแทนที่มาจากขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสร้างแบบจำลองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กรและประสานงานภายในโครงการตลอดระยะเวลาการทำงาน แบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) จะช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณสำหรับโครงการได้
9 ข้อดีของการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM)
- ภาพเหมือนจริง
แหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีเครื่องมือแผนที่และรูปภาพจากทั่วโลกที่ดียิ่งขึ้น โครงการจะถูกเริ่มขึ้นด้วยภาพทางอากาศและการยกระดับของดิจิตอล รวมไปถึงการ laser scans ของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ซึ่งการจับภาพจากของจริงจะมีความถูกต้อง แม่นยำ ทำให้การจัดเตรียมโครงการเป็นไปอย่างคล่องตัว โดย BIM จะทำให้นักออกแบบได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดจากการรวบรวมการนำเข้าและแชร์ของข้อมูลในแบบจำลอง (ในลักษณะที่กระดาษไม่สามารถทำได้) - Maintain Control
model-based แบบดิจิตอลจะช่วยเหลือในกระบวนการทำงานต่างๆ เช่น autosave และการเชื่อมต่อไปยังประวัติโครงการ เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าได้ใช้เวลาในการทำงานไปกับแบบจำลองนี้ การเชื่อมต่อกับประวัติรุ่นของการพัฒนาแบบจำลอง สามารถช่วยในการหลีกเลี่ยงการสูญหายหรือการเสียหายของไฟล์ ที่อาจจะทำให้เกิดความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ - ปรับปรุงแก้ไขงานร่วมกัน
สามารถแชร์และทำงานร่วมกันกับแบบจำลองได้ง่ายกว่าการใช้ชุด drawing เนื่องจากมีฟังก์ชั่นมากมาย ในตอนนี้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นการจัดการโครงการลงสู่ระบบ Cloud เช่น โซลูชั่นของ Autodesk BIM 360 ซึ่งมีเครื่องมือรองรับสำหรับรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน ในการแชร์แบบจำลองโครงการที่มีความซับซ้อน และช่วยรวบรวมการประสานงานภายในโครงการ ขั้นตอนการ Review และ markup จะช่วยให้ทุกคนมีข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาการออกแบบที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะดำเนินการต่อไปเมื่อเสร็จสิ้นการออกแบบ ไปต่อยังขั้นตอนการก่อสร้าง - Simulate และ Visualize
มีเครื่องมือ Simulate จำนวนมาก ที่จะช่วยให้นักออกแบบเห็นภาพต่างๆ เช่น แสงแดดของแต่ละฤดู การนับจำนวน หรือการคำนวณสมรรถภาพของอาคาร เป็นต้น ความฉลาดของซอฟต์แวร์ในการประยุกต์ใช้กฏที่อิงเข้ากับฟิสิกส์และจัดหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดให้ ซึ่งเป็นส่วนเติมเต็มให้กับวิศวกรและสมาชิกในโครงการ ซอฟต์แวร์สามารถทำแบบวิเคราะห์และแบบจำลองได้มากขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด รวบรวมข้อมูลความรู้และกฎลงใน service ที่สามารถใช้งานได้โดยการคลิกปุ่ม - แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ชุดเครื่องมือ BIM จะช่วยตรวจจับความขัดแย้งกันของส่วนประกอบต่างๆ โดยอัตโนมัติ เช่น ท่อไฟฟ้า หรือท่อส่งสัญญาณวิทยุ เป็นต้น โดยการสร้างแบบจำลองทั้งหมดเหล่านี้ให้ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก การขัดแย้งกันจะถูกตรวจพบก่อนเป็นอันดับต้นๆ และสามารถช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นที่หน้างานได้ อีกทั้งแบบจำลองนี้ยังได้รับรับรองว่าเหมาะสมกับส่วนประกอบที่ผลิตขึ้นจากภายนอก - ลำดับขั้นตอนการทำงาน
ในส่วนของแบบจำลองและแบบจำลองย่อยสำหรับแต่ละเฟสในระหว่างการก่อสร้าง โดยขั้นตอนต่อไปคือลำดับการประสานงานของขั้นตอนการทำงาน วัตถุและทีมงานสำหรับกระบวนการการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รูปแบบนี้ช่วยสนับสนุนให้การประสานงานของขั้นตอนการทำงานและกระบวนการทำงานง่ายขึ้น พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพื่อไปสู่สิ่งที่ต้องการได้ - เข้าถึงรายละเอียด
แบบจำลองเป็นจุดสิ้นสุดที่ดีสำหรับการถ่ายโอนความรู้จำนวนมาก แต่ในการแชร์แผนงาน หมวดหมู่ และระดับ ตลอดจนรีพอร์ตอื่นๆ ให้กับสมาชิกในโครงการ ก็ยังมีความจำเป็นอยู่เช่นกัน การใช้คุณสมบัติการทำงานแบบอัตโนมัติและการปรับแต่งเองเหล่านี้สามารถช่วยประหยัดเวลาในการร่างแบบได้ - การนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ
ด้วยทั้งหมดของการออกแบบที่เสร็จสมบูรณ์ตามการจับภาพและการแก้ไขตามความสมจริง แบบจำลองคือเครื่องมือการสื่อสารที่ดีที่สุดในการสื่อถึงขอบเขต ขั้นตอน และผลลัพธ์ของโครงการ ตามข้อเท็จจริงที่ว่าการออกแบบแบบ fully 3D มีขั้นตอนน้อยกว่าในการสร้างมุมมองการ render ที่น่าประทับใจ - ใช้งานได้ทุกที่
ด้วยประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นของแบบจำลองที่เชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูล ซึ่งต้องมีการเชื่อมต่อที่ดี การรวบรวมความสามารถนี้เข้ากับระบบ cloud เช่นเดียวกับ Autodesk BIM 360 Field ซึ่งหมายว่าผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแบบจำลองและรายละเอียดของโครงการได้จากทุกที่ บนอุปกรณ์ใดก็ได้
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่