เจ้าของโครงการสามารถผสมผสานสร้างความเป็นที่หนึ่งในการส่งมอบโครงการให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร

How Owners Can Create a Winning Combination for Successful Project Delivery

เราพบว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของโครงการ คือการเข้าใจในหลักการสำคัญของข้อมูล และวิธีกำหนดมาตรฐานข้อมูลที่จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ดียิ่งขึ้น การทราบเป้าหมายของการนำข้อมูลไปใช้ และวิธีการเพื่อที่จะได้ข้อมูลนั้นมา คือขั้นแรกในการส่งมอบข้อมูลแบบดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้เกิดการจัดการและขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณได้กำหนดข้อมูลที่ต้องการเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ  ในขณะที่ข้อมูลที่อยู่ในมือ อาจมีเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของข้อมูลทั้งหมดที่จะเกิดเป็นข้อมูลทั้งหมดที่สมบูรณ์ที่เราต้องการ โดยอีกครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่จะต้องเก็บเพิ่มจะต้องถูกวางแผนการจัดการตั้งแต่แรก เพื่อให้สามารถทำการจัดการข้อมูลได้ (Information Management : IM) โดยต้องสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มคุณภาพของงานและเพิ่มมูลค่าของผลงาน  ไม่ว่าจะเป็นงานส่วนใดก็ตาม การมีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน สามารถเชื่อมโยงและเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันได้อย่างสม่ำเสมอ จะสามารถแก้ไขความสับสนที่เกิดขึ้นในการทำงาน และเปิดโอกาสให้เจ้าของโครงการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของงานได้ด้วย เช่น งานบำรุงรักษา หรือจัดการส่วนอื่นๆ ได้สะดวกและง่ายขึ้นกว่าที่เคยมี

 Common Data Environment CDE 2

การปรับข้อกำหนดข้อมูลให้สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกำหนดที่มีอยู่

มาตรฐานและข้อกำหนดของอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการช่วยระบุข้อกำหนดของข้อมูลตลอดวงจรของสินทรัพย์ ข้อกำหนดของข้อมูลอาจจะกำหนดได้โดยไม่ต้องใช้มาตรฐานอุตสาหกรรมหรือข้อกำหนดใดๆ เลยก็ตาม เช่นการสร้างวิธีการสื่อสารที่ใช้ในการทำงาน และก่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันภายในองค์กร แม้ว่าจะมีการทำงานข้ามทีมหรือใช้ระบบและเครื่องมือที่แตกต่างกัน

ที่พูดมาทั้งหมดก็เพื่อสรุปว่า ก็คือการมีเครื่องมือเดียวกัน ก่อให้เกิดวิธีการทำงานร่วมกันซึ่งจะเชื่อมโยงทีมงาน ขจัดข้อผิดพลาดในการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน ป้องกันความผิดพลาดใดๆไม่ให้เกิดขึ้น  เนื่องจากทุกคนทำงานอยู่บนความเข้าใจที่ตรงกัน และการใช้กลยุทธ์ IM คือขั้นตอนสำคัญการเริ่มต้นทำงาน

มาตรฐานและข้อกำหนดของอุตสาหกรรม นั่นก็คือ ISO 19650, CFIHOS, BIM4Water, Uniclass, ISO 55000, AWP, ISA, NAMUR และ DEXPI ทั้งหมดนี้คือแนวทางทั่วๆไปสำหรับทุกบริษัท เพื่อใช้ในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อการส่งมอบงานแบบดิจิทัลได้สำเร็จ มาตราฐานมีมากหมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือ การเราจะเลือกเอามาตราฐานอะไรเพื่อให้เอามาใช้ได้อย่างเหมาะสมต่างหาก

ตัวอย่างเช่น ISO 19650 ซึ่งเป็นมาตราฐานที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของ CDE ตั้งแต่วิธีการปฏิบัติงานเพื่อส่งมอบงานในทุกๆช่วงของโครงการ ไปจนถึงการจัดการวิธีการทำงาน มาตรฐานนี้ช่วยจัดเตรียมและระบุข้อกำหนดของข้อมูล สิ่งเหล่านี้มีส่วนในช่วยผลักดันให้เกิดการส่งข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ช่วยสรุปรายงานความคืบหน้าของโครงการ ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในโครงการ ซึ่งรับรองความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะถูกส่งรวมกับระบบการทำงานกลางที่ตกลงกันไว้

ISO 19650 และ AWP: Data Maturity และ Project Lifecycle

โดยทั่วไป การส่งมอบงานในแต่ละช่วงของการก่อสร้าง ก่อให้เกิดข้อมูลจำนวนมาก ไม่ใช่แค่ความปลอดภัยของข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่การดำเนินงานของในเรื่องของทรัพย์สินต้องมีประสิทธิภาพด้วย การทำความเข้าใจว่าข้อมูลใดที่สำคัญและอะไรที่เป็นใจความหลักที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการทำงานในแต่ละอย่างต่อการทำงาน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลเหล่านี้จะพร้อมใช้งานในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถดึงข้อมือไปกำหนดการดำเนินงานและการวางแผนได้

สาระสำคัญของข้อมูล และข้อกำหนดด้านข้อมูล สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากไดอะแกรมของ ISO 19650  ซึ่งนโยบายขององค์กรในการใช้ข้อมูล และการกำหนดความต้องการข้อมูลในการบริหารทรัพย์สิน (OIR/AIR) เป็นพื้นฐานของสิ่งที่โครงการควรมีในการส่งมอบแบบดิจิทัล เช่น ข้อกำหนดในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ( Exchange Information Requirements : EIR)

 

Project Req

 

สิ่งสำคัญต่อมา ต้องเข้าใจว่าข้อมูลเหล่านี้เพิ่มขึ้นและอัพเดทอยู่เรื่อยๆในการส่งต่องานในแต่ละช่วง ต้องมีตัวช่วยหลักสำคัญของโครงการหรือ มีศูนย์กลางในการปฎิบัติงานทำงานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ระยะการดำเนินการโครงการ อย่างการทำคอมมิชชั่นนิ่งที่โครงการส่วนใหญ่มักเริ่มต้นเร็วเกินไป ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของข้อมูล และข้อมูลที่ต้องการเพื่อทำงานยังไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดการเพิ่มข้อมูลซ้ำซ้อน หรือข้อมูลเดิมๆที่ถูกสร้างจากคนละทีม เกิดเป็นข้อมูลเกินที่ส่งต่อการเพิ่มต้นทุน และยังกระทบต่อกำหนดตารางงานอีกด้วย

ในหัวข้อนี้มีอธิบายไว้ใน ISO 19650 ทั้งในระดับความต้องการข้อมูลและมาตรฐาน AWP ที่กำลังปรับแก้อยู่ ทั้งสองมาตราฐานได้มีการกำหนดข้อกำหนดด้านข้อมูลในแต่ละช่วงงานของโครงการ อย่างที่  ISO 19650 ทำ  AWP  ก็คืออีกมาตราฐานที่ช่วยสร้างชุดของข้อกำหนดด้านข้อมูลทั่วไปและวิธีการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นมาตรฐานในโครงการและระบุไว้ในสัญญา การจัดการข้อกำหนดด้านข้อมูลนี้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความท้าทายที่เราต้องเจอก็คือ เมื่อระบบหลายระบบและหลากหลายเข้ามาทำงานเกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่อาจมาจากระบบและองค์กรต่างๆ มากมาย อาจมีค่าใช้จ่ายสูงหากข้อมูลนี้มีการจัดเตรียมไว้หลากหลายรูปแบบและหลากหลายโครงสร้างมากเกินไป ความแตกต่างนี้ทำให้ต้องมีการจัดการที่แตกต่างกัน และนั่นก็มาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ความโปร่งใสของที่มาข้อมูล และความแม่นยำในการจัดเก็บข้อมูล คือเหตุที่สำคัญที่นำไปสู่การนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การทำงานร่วมกันระหว่าง Datum360 และ Autodesk พัฒนามาเพื่อทำงานอยู่บนความท้าทายนี้โดยตรง โดยการออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การทำงานร่วมกัน และสภาพแวดล้อมในการส่งมอบแบบดิจิทัล เพื่อสนับสนุนและทำให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยข้อกำหนดที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถนำเข้าข้อมูล รูปแบบข้อมูลและรูปแบบเอกสารได้หลากหลาย เพื่อการประมวลผลในการตรวจสอบร่วมกับข้อกำหนดข้อมูลตาม ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับมาตราฐาน ISO 19650 และมาตราฐาน  AWP

ความเชื่อถือในการทำงานระหว่างกัน เกิดจากการควบคุมวิธีการทำงานที่ชัดเจน

เมื่อกำหนดว่าอะไรคือข้อมูลจำเป็น ข้อมูลเหล่านั้นใครคือผู้ส่ง และข้อกำหนดอย่างไร ขั้นตอนต่อไปคือการมีกระบวนการดำเนินการทำงาน ซึ่งต้องมีตัวชี้วัดความคืบหน้าของงาน โดยเทียบกับเกณฑ์ต่างๆ คือส่วนสำคัญที่ใช้ในการวางแผนและการจัดการสำหรับตารางงานที่ยุ่งยากซับซ้อนของการส่งผ่านโครงการในแต่ละช่วง เครื่องมือที่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนสมารถตรวจสอบได้ก็คือ องค์ประกอบสำคัญในการสร้างความไว้วางใจของข้อมูลที่เกิดขึ้น

Dashboard

มีกิจกรรมที่ต้องทำงานเชื่อมกันมากมายระหว่างการส่งต่องานในแต่ละช่วง และการดำเนินงานในแต่ละชั้นตอนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการส่งข้อมูลแต่ละประเภท ความสามารถในการสร้ารูปแบบประเมินความสมบูรณ์ของข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้อง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของความต้องการ กำหนดรูปแบบการทำงานในแต่ละบริบทที่แตกต่างกัน จะช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนเมื่อถูกวางแผนงานและเริ่มปฏิบัติงาน

การทำงานของ Supplier คือตัวอย่างที่ชัดเจนเป็นอย่างดี โดยทั่วไปแล้ว Supplier มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาของให้ตรงตามกำหนดเวลา โดยคุณสามารถติดตามความคืบหน้า และรับทราบสถานะในการทำงานของ Supplier ได้อีกด้วย ว่าทาง Supplier กำลังดำเนินการในขั้นตอนไหนแล้ว

โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการเรียกดูข้อมูลที่จำเป็น ที่จะช่วยให้การตัดสินใจเรื่องต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ อย่างเช่น การทดสอบการทำงานของระบบต่างๆ และเมื่อเริ่มใช้อาคาร นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องของคุณภาพและความครบถ้วนของข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ หมายความว่า ประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกเอาไว้ และง่ายต่อการเรียกกลับมาใหม่ได้ตลอดเวลา  

ไม่ว่าเราจะต้องการอ้างอิงเพื่อสรุปผลในการดำเนินงานในขั้นตอนไหนก็ตาม  ความสามารถในรายงานสถานะงาน และแสดงภาพเป็กราฟฟิกที่ชัดเจน คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเส้นทางส่ความสำเร็จของโครงการ

เริ่มต้นการส่งมอบข้อมูลแบบดิจิทัล

ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมใดก็ตาม เมื่อพูดถึงการส่งมอบข้อมูลแบบดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีการกำหนดวิธีการทำงานที่ชัดเจน  หากจะนำมาใช้ก็จะต้องได้ประโยชน์เป็นส่วนสำคัญต่อแนวทางการทำงานและดำเนินงานในโครงการได้ด้วย

โดยมีหลักการดังนี้

  • มีข้อกำหนดที่ชัดเจน

  • ใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากลาง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน

  • แหล่งข้อมูลที่ชัดเจน และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

  • ระบบติดตาม แจ้งเตือน และจัดการงานตามแผน ทำให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพ และถูกต้องสมบูรณ์

การทำงานร่วมกันระหว่าง Datum360 และ Autodesk Construction Cloud ตอบโจทย์หลักการเหล่านี้

ด้วยความร่วมมือระหว่างสองโซลูชัน เราส่งต่อข้อมูลโดยทั่วไปและเชื่อมโยงข้อมูลส่วนต่างๆในพื้นที่สภาพแวดล้อมของการจัดเก็บข้อมูลเดียวกัน ซึ่งรองรับข้อกำหนดในการทำงาน ซึ่งความเฉพาะแตกต่างในแต่ละส่วน โดยเฉพาะการส่งงานในสภาพแวดล้อมเพียงแห่งเดียว คือการเข้าถึงข้อมูล การสร้างเอกสาร และจัดการข้อมูลสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาของโครงการ

เรียนรู้เพิ่มเติมกับวิธีที่เครื่องมือของเราสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Common Data Environment (CDE) พร้อมรับมือกับความท้าทายในการทำงานเป็นการเพิ่มมูลค่าของข้อมูล เพื่อการส่งมอบโครงการได้อย่างประสบความสำเร็จ

Common Data Environment CDE 3

Reference: https://constructionblog.autodesk.com/data-ownership-project-delivery/


ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ

quatation
educenter
luvicha
line
bentoweb
call

บทความที่เกี่ยวข้อง

synergysoft

บริษัท ซินเนอร์จี้ซอฟต์ โซลูชั่น จำกัด

135/58 อาคารอมรพันธ์ 205 ทาวเวอร์ 2 ชั้น 19 ซอยรัชดาภิเษก 7  ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

โทรศัพท์ , แฟกซ์ : 02-692-2575

ติดต่อสอบถาม

อีเมล (E-mail) : sales@synergysoft

ฝ่ายขาย : 085-323-5453

ติดตามเรา

AUTODESK SOFTWARE

OTHER SOFTWARE

RELATED LINK

Construction & Design Solution by Synergysoft
แหล่งรวบรวมความรู้ เทคโนโลยี และโซลูชั่นการออกแบบงานอาคารด้วยระบบ BIM งานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้างเหล็กและคอนกรีต งานระบบ การก่อสร้าง และคลาวด์โซลูชั่น

Manufacturing Solution by Synergysoft
แหล่งรวบรวมความรู้ เทคโนโลยี และโซลูชั่นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 3 มิติ สำหรับมืออาชีพ งานวิศวกรรม งานเครื่องจักรกล งานเอกสาร และการจำลองผลิตภัณฑ์

Synergysoft Education Center fanpage
อัพเดตข่าวสารการอบรม ตารางการอบรมต่างๆ ผ่าน ซินเนอร์จี้ซอฟต์ เอ็ดดูเคชั่น เซนเตอร์ แฟนเพจ

Construction & Design Solution by Synergysoft
แหล่งรวบรวมความรู้ เทคโนโลยี และโซลูชั่นการออกแบบงานอาคารด้วยระบบ BIM งานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้างเหล็กและคอนกรีต งานระบบ การก่อสร้าง และคลาวด์โซลูชั่น

 

Synergysoft Education Center
Autodesk Authorized Training Center
ศูนย์อบรมการใช้โปรแกรมออกแบบและทดสอบอย่างเป็นทางการจากออโตเดสก์

Synergysoft Online Store
ร้านซอฟต์แวร์ออนไลน์ ชำระด้วยบัตรเครดิตได้

Luvicha
เว็บออนไลน์เทรนนิ่ง เรียนรู้ได้ 24 ชั่วโมง ได้ทุกที่ ทุกเวลา

ร่วมงานกับเรา
Privacy Policy

 

Copyright 2024 © All Rights Reserved by Synergysoft