คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Revit
ถ้ากล่าวถึงการทำงานในโปรแกรม Autodesk Revit คุณอาจจะต้องมีคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่มีคุณสมบัติรวมไปถึงฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองต่อฟังก์ชั่นการใช้งาน ทางเราจึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลในส่วนของแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในตัวโปรแกรม Revit ที่มีอยู่ในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกและแนวทางให้แก่ผู้ที่สนใจ
Revit เป็นซอฟต์แวร์ระดับไฮเอนด์ของ Autodesk ที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองข้อมูลสำหรับ สถาปนิก วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในปัจจุบันนั้นเราใช้เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติที่มีความแม่นยำ และสามารถติดตามในส่วนของโครงการก่อสร้างได้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโปรแกรม Revit ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมการทำงานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง และงานระบบ จึงไม่แปลกใจที่การเปิดใช้งานโปรแกรมจะต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับ Revit นั้นมีข้อมูลบางส่วนที่คุณจำเป็นที่จะต้องทราบ คือ
-
สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ใช้งานทั่วไป ที่ใช้ Revit ในโครงการขนาดเล็กที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากอาจไม่มีความจำเป็นที่ต้องหาแล็ปท๊อบรุ่นใหม่ๆ โดยสามารถใช้แล็ปท๊อปรุ่นทั่วไปได้
-
Windows ที่เหมาะสมกับโปรแกรม Revit แนะนำให้เป็น Windows 10 (64 Bit) ประเภท Windows Professional เพราะถึงแม้ว่าแล็ปท๊อปทั่วไปจะมีการติดตั้ง Windows home มาแล้ว หากคุณใช้ระบบอื่นเช่น ระบบ OS X คุณอาจจะต้องไป Boot Camp หรือใช้ซอฟต์แวร์ VM เพื่อที่จะทำการติดตั้งโปรแกรมซึ่งมันอาจจะมีความยุ่งยาก
-
Processor หรือหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ถือเป็นส่วนประกอบหลักของโปรแกรม Revit เพราะเป็นซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้การประมวลหลายๆ งานพร้อมกันซึ่งมีความแตกต่างจากซอฟต์แวร์ทั่วไป ดังนั้นคุณควรเน้นความเร็วของ CPU (Clock Speed) ที่มากกว่าจำนวน Core ของ CPU สิ่งนี้อาจจะเป็นความท้าท้ายในแล็ปท๊อป ซึ่งโดยทั่วไปจะเน้นที่การประหยัดพลังงานและเพิ่มความเร็วประสิทธิภาพของ CPU ให้สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น CPU ของ AMD รุ่นRyzen 9 และ Ryzen 5 series หรือ CPU ของ Intel 11th generation, Tiger Lake เป็นต้น เนื่องจากมีการออกแบบมาให้รองรับเพื่อเร่งประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของ CPU และจำนวน Core ที่น้อยลง โดยแล๊ปท็อบส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายจะเป็น CPU ของ intel 10th generation โดยเราสามารถระบุรุ่นด้วยตัวเลขหลัง i7 หรือ I5 เช่น Core i7-1065G7 (10th generation), Core i7-1185G7 (11th generation)
-
RAM หรือ หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ที่เหมาะสมกับการทำงานของ Revit จำเป็นต้องมีหน่วยความจำที่สูง โดยมีขนาด 32GB หรือ 64GB ในบางกรณีอาจจะใช้หน่วยความจำต่ำสุด 16GB แล้วไปติดตั้ง Ram เพิ่มเติมในภายหลัง
-
การ์ดจอและแสดงผล จริงๆแล้ว Revit ไม่ได้ใช้การประมวลผลกราฟิกมากขนาดนั้น ดังนั้นการเลือกการ์ดจอจึงมีความสำคัญน้อยกว่า หากคุณวางแผนที่จะใช้โปรแกรมอื่นๆ ที่ต้องอาศัยการประมวลผลของการ์ดจอ คุณอาจจะเลือกใช้การ์ดจอระดับไฮเอนด์จาก NVIDIA หรือ AMD
-
Storage หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนำ Solid State drives (SSD) ที่มีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 512 GB หรือ SATA drives ก็สามารถใช้งานได้แต่ประสิทธิภาพจะน้อยกว่า
ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Revit
หากคุณกำลังมองหาคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับการทำงานของ Revit แต่สามารถพกพาได้นี่อาจจะเป็นแนวทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ และต่อไปนี้คือชื่อรุ่นของแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับ Revit
Windows กับ Macs
ถ้าพูดถึง Windows กับ Macs ในแง่ของฮาร์ดแวร์และระบบปฎิบัติการทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ซึ่งแล็ปท็อปของ Apple และ PC ระดับไฮเอนด์ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับกับการทำงาน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่กล่าวมานั้นส่วนใหญ่ใช้ Windows 10 ข้อดีคือสามารถรองรับซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย แต่ข้อเสียคือเรื่องของไวรัสมีมากกว่า Mac ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลือกในการเลือกใช้ Apple OS X แม้ Revit จะไม่มี Macintosh version แต่ก็ยังมีตัวเลือกบางอย่างที่จะช่วยให้คุณใช้ Revit ได้เมื่อต้องทำงานกับระบบ Macintosh ของ Apple
อีกทางเลือกนึงคือการใช้ Bootcamp ที่ช่วยให้คุณสามารถสลับระหว่าง Mac OS กับ Windows ได้ในกรณีที่คุณต้องตั้งค่าแยก partition บน Mac ของคุณและทำการ Boot ให้เข้าสู่ระบบ Windows ซึ่งการใช้ Bootcamp ให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดก็จะมีข้อจำกัดคือคุณจะไม่สามารถเข้าถึง Mac OS ของคุณได้ขณะที่กำลังทำงานอยู่
ทางเลือกต่อมาก็คือการจำลองการใช้งานเสมือน Windows 10 เช่น VMWare Workstation Player หรือการใช้ Parallels ในการรันเครื่องเสมือนภายใน Mac OS ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงระบบปฏิบัติการทั้งสองแบบได้ ซึ่งวิธีนี้คุณต้องเข้าใจว่าระบบปฏิบัติการทั้งสองระบบนี้กำลังใช้ฮาร์ดแวร์พร้อมกันอยู่ หากคุณวางแผนที่จะใช้ virtualization จึงขอแนะนำให้ใช้ MacBook Pro ในระดับไฮเอนด์ซึ่งมี CPU 2.3Ghz i9 8-core และ RAM ขนาด 32GB
บทสรุป
ท้ายที่สุดแล้วสำหรับการเลือกใช้แล็ปท๊อปต่างๆ ก็ต้องคำนึงถึงความต้องการ และประสิทธิภาพที่มีความเหมาะสมกับการทำงาน สำหรับมืออาชีพด้านการออกแบบที่ใช้ซอฟต์แวร์ที่มีความต้องการสูงในแต่ละวัน ก็ควรเลือกใช้รุ่นที่มีลักษณะบาง เบาเพื่อสะดวกกับการใช้งานในระหว่างเดินทาง หรือเลือกที่เหมาะสมกับซอฟต์แวร์อย่าง Revit และ 3ds Max หรือแม้แต่ Solid works โดยขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล แล็ปท็อปที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นั้นก็มีหลายรุ่นที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นด้านขุมพลัง ความสวยงาม และความคล่องตัว
หรือหากท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ช่องทางอีเมล
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่